หลังจากสร้างความบรรลัยให้กับพนักงานสอบสวน ด้วยการยุบแท่งเพื่อดึงเอาอำนาจการแต่งตั้งกลับมาไว้ในมือ ไม่ปล่อยให้มีการสอบเลื่อนไหลตามที่ปฏิบัติกันมานับสิบปี และจากการแต่งตั้งที่ทาง ตร. รวบอำนาจไปทำเองทั้งหมดในช่วงรัฐบาลเผด็จการ ทำให้มีพนักงานสอบสวนออกนอกสายจำนวนมาก เพราะอยู่ไปก็ไม่มีความก้าวหน้า(ไม่มีการสอบเลื่อนระดับ) ต้องวิ่งเต้น ใช้เส้นสาย แต่ความที่เป็นพนักงานสอบสวน ย่อมไม่สามารถ "ดูแล" นายได้เหมือนกับสายงานอื่น ๆ จะอยู่เข้าเวร วัดถนนไปทำไม
และก็เป็น ตร. อีกนั่นแหละ ที่ปล่อยให้มีการไหลออกของพนักงานสอบสวน มากจนเกิดปัญหาในการ ปฏิรูปตำรวจ ที่ไม่สามารถจัดพนักงานสอบสวนได้เพียงพอต่อปริมาณงานที่มีได้ (ก็จัดไปตาม ตั๋ว ที่มี ไม่ได้สนสีสนแสดอะไร โรงพักหรือประชาชนจะเดือดร้อนช่างแม่ง) ตอนนี้ก็ต้องมาแก้ปัญหา ที่ตัวเองทำไว้ เป็นที่เดือนร้อนประชาชน และพี่น้องตำรวจทั่วประเทศอีกแล้ว(พวกนายพลนี่แม่ง...)
มีการสำรวจข้อมูลกำลังพลว่าใครมีวุฒินิติศาสตร์ หรือเคยผ่านงานสอบสวนมาก่อนบ้างหรือไม่ เรียกว่าจะเกลี่ยกลับมาเติมงานสอบสวนให้เต็ม ตามกรอบคดี และขนาดสถานีตำรวจที่กำหนด ที่ตลกคืองานกำลังพลของแต่ละ บก. ก็มีข้อมูลอยู่ในมือแท้ ๆ (สงสัยยังไม่ได้ลงในระบบฯ) ก็ยังทำหนังสือมาสอบหน่วย ถ้าเจ้าตัวโกหกว่าไม่มีวุฒิฯ หรือไม่ผ่านงานสอบสวน พวกเอ็งจะรู้มั๊ย เฮ้อ..
ตร. ต้องถามตัวเองแล้วว่า ทำไมพนักงานสอบสวนถึงขาดแคลน ทั้ง ๆ ที่มีค่าตอบแทนมากกว่าสายงานอื่น บวกค่าสำนวนอีก น่าจะทำให้มีคนต้องการเป็นพนักงานสอบสวนจำนวนมาก แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่ ในฐานะที่เคยผ่านงานสอบสวนมาก่อน(ตอนสำรวจกรูไม่บอกหรอก 55) จะเปิดกะลาให้ทราบนะว่าทำไม
- เรื่องขั้นเงินเดือน ... พนักงานสอบสวนเป็นอะไรที่เจ้านายมองข้ามมาก ๆ เพราะทำงานในลักษณะที่อยู่ในที่ตั้ง ไม่ใช่งานโชว์ ถ้าไม่ได้ทำคดีใหญ่ ยากที่จะเข้าตาผู้บังคับบัญชา การพิจารณาขั้นประจำปี ไปดูได้ว่าสัดส่วนการได้ขั้นของสายงานสอบสวน เปรียบเทียบกับสายงานอื่น จะน้อยกว่ามาก ๆ
- เรื่องความก้าวหน้าในชีวิตราชการ .. จากเดิมมีการสอบเลื่อนไหล(ระบบยังไม่ดี เลื่อนไว และง่ายเกิน ควรมีกรอบอัตราแต่ละระดับให้ชัดเจน ไม่ใช่ไหลไปกองกันเยอะแยะ) ยังพอรู้ว่าอนาคตจะไปได้ถึงระดับไหน แต่ตอนนี้มันมีแต่วิ่งเต้น ไม่เข้าหานายไม่มีทางได้ดี ตกลงเราทำงานเพื่องาน เพื่อหน่วย เพื่อประชาชน หรือ เพื่อใคร ?
- ไม่มีผู้ช่วยประจำตัว ... ตำแหน่งผู้ช่วยพนักงานสอบสวน ควรต้องมี เพื่อช่วยเก็บรายละเอียดในคดี พวกเอกสารประกอบ ผลการตรวจพิสูจน์ หรือหนังสือโต้ตอบต่าง ๆ แต่ปัจจุบันไม่มีกำลังพลเพียงพอ ส่วนมากพนักงานสอบสวนต้องทำเองเกือบหมด เจ้าหน้าที่คดี ก็ช่วยได้ไม่กี่อย่าง ไอ้ที่เคยสั่งให้จัดผู้ช่วยพนักงานสอบสวนให้เพียงพออะไรนั่นน่ะ มันเป็นไปไม่ได้จะเอาคนมาจากไหน (อ่านต่อที่เคยเขียนไว้คลิ๊ก)
- ความรับผิดมันเยอะเกิน .. พวกผู้บังคับบัญชาก็สักแต่ว่าสั่ง ๆ ๆ ต้องอย่างนั้น ต้องอย่างนี้ เอกสาร สมุดคุมห่าเหวอะไรเยอะแยะไปหมด แค่ทำสำนวนก็จะตายห่าอยู่แล้ว ต้องมาเขียนลงสมุดโน่น นี่ นั่น ไหนจะลง CRIMES อีก ไอ้นั่นก็ต้องทำ ไอ้นี่ก็ต้องมี ค้วย !! อยากให้คนสั่ง กะคนตรวจ ที่ว่าเก่ง ๆ ลงมาทำงานสอบสวนให้ดูเป็นตัวอย่างสักปีนึง นี่มันยุคไหนแล้ว เอกสารบ้าบออะไรจะเยอะปานนั้น
- เป็นกระโถนให้ทุกหน่วยงาน ... ในบรรดาหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ทุกหน่วยเอาเปรียบตำรวจหมด อัยการ ศาล ต่างมีข้อตกลงให้ตำรวจปฏิบัติหยุมหยิม อาทิ ต้องส่งสำนวนก่อนวันที่ 25 , ห้ามส่งสำนวนฝากสุดท้าย , สอบเด็กเอาตัวมาสอบที่อัยการ , ต้องมาผัดฟ้อง-ฝากขังก่อนเที่ยง ฯลฯ ตำรวจต้องทำตามโดยที่ตำรวจจะขอเรียกร้องอะไรบ้างไม่ได้เลย ผู้บังคับบัญชาก็ไม่เคยเป็นปากเป็นเสียงให้ พอหน่วยงานอื่นขออะไรก็รับปากเขาไปเรื่อย ไม่มาถามลูกน้องก่อนว่าทำได้ไหม ติดขัดอะไร จะเอาหน้าอย่างเดียว แต่ก่อนให้ทนายมาร่วมสอบสวน พงส. ยังต้องจ่ายค่าตัวให้เลย รู้กันบ้างรึเปล่า
- เสี่ยงคุก เสี่ยงตาราง .. กฎหมาย ระเบียบ ใหม่ ๆ ออกมาแทบจะทุกวัน ใครมันจะไปรู้ ไปจำได้หมด ไม่เหมือนศาล หรือ อัยการ ที่รับสำนวนมาพิจารณา มีเวลาตรวจทาน แต่กับคนที่อยู่ในสถานการณ์เฉพาะหน้า โอกาสพลาดจึงมีสูง พลาดนิดเดียว อาจหมายถึงจบชีวิตราชการได้ ต้องอยู่กับความรู้สึกแบบนี้ทุกวัน มันไม่สนุกนะมึง
เหล่านี้แหละคือสิ่งที่บั่นทอนกำลังใจในการทำงานของพนักงานสอบสวน อย่าคิดว่ามีเงินตำแหน่งมาล่อแล้วจะรั้งไว้ได้ มันมีปัจจัยอีกหลายอย่างประกอบกันครับ
ตอนนี้ สบ.4 หรือ ผู้กำกับสอบสวน มีเยอะแยะ ปล่อยไหลกันขึ้นไปโดยไม่กำหนดกรอบแต่แรกว่าควรจะมีเท่าไหร่ มีหน้าที่อะไร ตำแหน่งอยู่ที่ไหนจึงจะเหมาะสม เห็นว่ามีตั้ง 800 ร้อยคน แต่ไม่มีงานทำ หรือทำแค่ตรวจสำนวน แต่ไม่ได้ทำงาน พนักงานสอบสวนจริง ๆ ที่เหมาะคือจัดลงประจำ บก. หรือ ภ.จว. ไปเลยครับ แล้วมีสำนวนน่าสนใจ ก็สั่งให้ไปเป็นหัวหน้าทีมงานสอบสวน เช่น คดีสมคบ , คดีอุกฉกรรจ์ , คดีที่มีความซับซ้อน ฯลฯ
ส่วนจะเกลี่ยสายงานอื่นมาลงงานสอบสวน ควรให้เป็นไปด้วยความสมัครใจ และแก้ปัญหา 6 ข้อข้างต้นให้เขาก่อน ถ้าบังคับมาเกิดปัญหากับประชาชน หน่วย และ เจ้าตัวแน่นอน(ปัญหาฆ่าตัวตายก็จะตามมา) เจ้านายบางคนก็คิดแต่ว่าเป็นตำรวจนายสั่งต้องทำได้ ทำอะไรลองนึกถึงตัวเองดูก่อน หรือลองถามหน้าห้องดูก็ได้ครับ ว่าจะย้ายไปอยู่งานสอบสวนโรงพัก มันเอามั๊ย
ตอนนี้ สบ.4 หรือ ผู้กำกับสอบสวน มีเยอะแยะ ปล่อยไหลกันขึ้นไปโดยไม่กำหนดกรอบแต่แรกว่าควรจะมีเท่าไหร่ มีหน้าที่อะไร ตำแหน่งอยู่ที่ไหนจึงจะเหมาะสม เห็นว่ามีตั้ง 800 ร้อยคน แต่ไม่มีงานทำ หรือทำแค่ตรวจสำนวน แต่ไม่ได้ทำงาน พนักงานสอบสวนจริง ๆ ที่เหมาะคือจัดลงประจำ บก. หรือ ภ.จว. ไปเลยครับ แล้วมีสำนวนน่าสนใจ ก็สั่งให้ไปเป็นหัวหน้าทีมงานสอบสวน เช่น คดีสมคบ , คดีอุกฉกรรจ์ , คดีที่มีความซับซ้อน ฯลฯ
ส่วนจะเกลี่ยสายงานอื่นมาลงงานสอบสวน ควรให้เป็นไปด้วยความสมัครใจ และแก้ปัญหา 6 ข้อข้างต้นให้เขาก่อน ถ้าบังคับมาเกิดปัญหากับประชาชน หน่วย และ เจ้าตัวแน่นอน(ปัญหาฆ่าตัวตายก็จะตามมา) เจ้านายบางคนก็คิดแต่ว่าเป็นตำรวจนายสั่งต้องทำได้ ทำอะไรลองนึกถึงตัวเองดูก่อน หรือลองถามหน้าห้องดูก็ได้ครับ ว่าจะย้ายไปอยู่งานสอบสวนโรงพัก มันเอามั๊ย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น