ให้จัดผู้ช่วยพนักงานสอบสวน .. จะเอากำลังพลจากไหน ?


หลอกกันไปหลอกกันมา ปัญหาไม่แก้ !  ตามสไตล์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  สุดท้ายผู้ปฏิบัติรับกรรม

     มีหนังสือจาก สกพ. หรือสำนักงานกำลังพล ตร.  อ้างมติการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมงานสอบสวน ครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 61  ที่มี พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุม  โดยมีมติให้สถานีตำรวจทุกแห่งดำเนินการจัดให้มีข้าราชการตำรวจไปปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน  โดยให้สถานีตำรวจที่มีกำลังพลเพียงพอจัดผู้ช่วยพนักงานสอบสวน 1 คน ต่อพนักงานสอบสวน 1 คน   หากมีกำลังพลไม่เพียงพอให้จัดผู้ช่วยพนักงานสอบสวน 1 คน ต่อ พนักงานสอบสวน 2 คน  โดยให้พิจารณาจากข้าราชการตำรวจที่มีคุณวุฒินิติศาสตร์บัณฑิตก่อนเป็นลำดับแรก หากไม่มีให้พิจารณาจากผู้มีคุณวุฒิอื่น ๆ ต่อไป

     มีข้อสังเกตุ และปัญหาอุปสรรค หลายประการกับการปฏิบัติตามมติที่ประชุมดังกล่าว ขอแจกเป็นข้อ ๆ ดังนี้
  1. มติของคณะกรรมการส่งเสริมงานสอบสวน  ควรต้องเสนอไปยัง ผบ.ตร. แล้วให้ ผบ.ตร. พิจารณาสั่งการก่อนหรือไม่  เพราะการจัดกำลังพล ปรับเปลี่ยนหน้าที่ อาจกระทบต่อสายงานอื่นที่ไม่ใช่งานสอบสวน เช่น ไปดึงเอาคนของงานสืบสวน งานป้องกันปราบปราม มาทำหน้าที่ โดยเขาไม่เต็มใจ  อาจขัดต่อระเบียบการเบิกจ่ายเงินตอบแทนบางประการ  ดังนั้น จะเอามติดังกล่าว มาเป็นข้อสั่งการเลยได้หรือ  เพราะเป็นการประชุมโดยมองในกรอบของงานสอบสวนเพียงด้านเดียว  ไม่ได้มองความขาดแคลนของสายงานอื่นในสถานีตำรวจแต่อย่างใด
  2. ทุกวันนี้ทุกสถานีตำรวจก็ขาดแคลนกำลังพลอย่างหนัก  เพราะปัญหาที่พวกนายพลต่าง ๆ เอาตัวคนไปช่วยราชการ  ทำให้ทุกสายงานขาดกำลังพลกันอยู่แล้ว  จะให้จัดผู้ช่วยพนักงานสอบสวนสถานีละ 5 - 10 คน จะเป็นไปได้อย่างไร  จะเอากำลังพลจากไหน  นึกว่ามีกำลังพลเหลือใช้หรืออย่างไรห๊ะ(ตามหนังสือถึงกำลังพลไม่เพียงพอก็ต้องจัด ผู้ช่วย 1 ต่อ 2 พงส. นะครับ)
  3. กำลังพลที่จบนิติศาสตร์ จะมีสักกี่คน แล้วเขาต้องการ หรือเต็มใจทำหน้าที่ผู้ช่วยพนักงานสอบสวนหรือไม่  จะไม่ถามไถ่ความสมัครใจกันบ้างหรือ  ถ้างั้นเอาคนขับรถ หรือเด็กในสำนักงานท่านมาเป็นได้หรือไม่
  4. กรอบการทำงานของผู้ช่วยพนักงานสอบสวน จะต้องเข้าเวรพร้อมกับ พงส. หรือไม่  หรือทำงานตามเวลาราชการ  จะให้นั่งตรงไหน  โต๊ะทำงาน อุปกรณ์การทำงาน ใครเป็นคนจัดหา(กูรู้ล่ะ ถามไปงั้น)

     ผมจะขอบอก สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามสภาพความเป็นจริงให้ท่านทราบนะครับ  ออกหนังสือมาแบบนี้ ทุกสถานีก็จะต้อง "จัด" ตามบัญชาท่านนั่นแหละ   แต่จะเป็นการเอาคนจากหน้าที่อื่น หน้าที่ประจำ มาเพิ่มงานให้เป็น ผู้ช่วยพนักงานสอบสวน อีกหน้าที่หนึ่ง   และก็จะไม่ได้มาช่วยงานอะไรพนักงานสอบสวนแน่ เพราะหน้าที่ประจำก็เต็มกลืนแล้ว  เรียกว่าเอาชื่อมาฝากไว้เฉย ๆ(มาแต่ชื่อ ตัวไม่มา) แล้วรายงานหน่วยเหนือว่าได้ ทำแล้ว !



     นายที่รับรายงานก็จะได้ชื่อว่า แก้ปัญหาของพนักงานสอบสวนที่เรียกร้องมาให้แล้ว ถ้าไม่สำเร็จก็เป็นที่หัวหน้าสถานีตำรวจไม่ดำเนินการเอง กรูไม่เกี่ยว ....  หลอกกันไปหลอกกันมา  ปัญหาไม่แก้  เข้าอีหรอบเดิม  นั่งอยู่บนหอคอยงาช้าง  ไม่รู้ห่าเหวอะไรบนสถานีตำรวจทั้งสิ้น  สักแต่ว่าสั่ง  เพิ่มงานมาเรื่อย ๆ  ถึงว่า ตำรวจจึงเป็นอาชีพที่ฆ่าตัวตายมากที่สุด  แล้วพวกที่ฆ่าตัวตายเกือบทั้งหมดอยู่ในระดับสถานีตำรวจทั้งสิ้น  ไม่คิดจะหาสาเหตุกันบ้างหรือ ?

     ยกตัวอย่างรับคดีตามจริง  ผบ.ตร. พูดกันมาหลายคนแล้ว  ทำได้จริงมั๊ยล่ะ  ถ้าไม่กล้ารับความจริงแล้วจะแก้ปัญหาได้ถูกจุด ถูกวิธีได้อย่างไร  ถ้าปริมาณคดีจริงมากกว่าที่เป็นอยู่ จะได้เพิ่มกำลังพลได้  แต่ระดับ บช.-บก. ก็สั่งให้เกิดต้องจับตามเปอร์เซนต์  ไม่ผ่านย้าย !  เมื่อไหร่จะแก้ได้ล่ะครับ

ปล. วันนี้วันแห่งความรัก ผมก็รักในอาชีพนะ  แต่ชักเบื่อมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว  ถามเพื่อน ๆ ในสถานีก็คิดเหมือน ๆ กัน  หลายคนถ้ามีทางประกอบอาชีพอื่นได้ เขาก็ไปจากอาชีพตำรวจกันทั้งนั้น เฮ้อ  ไอ้เรายังไปไม่ได้หนี้สินรุงรัง  ต้องทนกันต่อไปพี่น้อง


ความคิดเห็น