จากกรณีหนุ่มแมสเซนเจอร์หนีรถติด ขับรถจักรยานยนต์ขึ้นไปบนทางเท้าและเกิดเหตุเฉี่ยวชนกับนักเรียนหญิง รร.บดินทรเดชา ที่ยืนรอรถเมล์อยู่ จนนักเรียนหญิงดังกล่าวได้รับบาดเจ็บและถูกนำตัวส่งโรงพยบาล ส่วนตัวผู้ขับขี่ จยย. ก็ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 เวลาประมาณ 15.30 น. ในพื้นที่ของ สน.โชคชัย ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ได้ดำเนินคดีกับผู้ขับขี่ดังกล่าวตามกฎหมาย
เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 62 ศาลแขวงพระนครเหนือ ได้อ่านคำพิพากษาคดีที่ นายภูวดล ศรีสำโรง อายุ 23 ปี พนักงานส่งเอกสาร ก่อเหตุขี่ จยย.ชน นร.หญิงโรงเรียนบดินทรเดชา 3 บนทางเท้าจนได้รับบาดเจ็บเป็นจำเลย ความผิดฐาน
- กระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายและจิตใจ
- ความผิดฐานขับขี่รถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน
- ความผิดฐานขับขี่รถบนทางเท้าโดยไม่มีเหตุสมควร และ
- ความผิดฐานขับขี่โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ประกอบคำรับสารภาพของจำเลยแล้ว พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย หรือความเดือดร้อนของผู้อื่นตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 160 วรรค 3 เป็นบทที่มีโทษหนักสุดให้จำคุก 2 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยเป็นเวลา 1 เดือน แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน จึงให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นโทษกักขังเป็นเวลา 1 เดือน แต่การกระทำของจำเลยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และความเดือดร้อน ของผู้ใช้ทางเท้า เป็นเหตุให้เฉี่ยวชนผู้เสียหาย ขาดจิตสำนึกต่อสังคมส่วนรวม ไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษให้แก่จำเลย และให้ริบรถจักรยานยนต์ของกลาง ทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิด
ภายหลังญาตินายภูวดลยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เงินสด 18,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราว เพื่อขออุทธรณ์ คำสั่งกักขังโดยไม่รอลงอาญา ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวตีหลักทรัพย์ 18,000 บาท
ถือว่าเป็นคดีตัวอย่างให้สังคมโดยเฉพาะบรรดาผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นอาชีพทั้งหลายได้ตระหนักว่ากฎจราจร คือกฎแห่งความปลอดภัย การละเมิดแล้วไปได้เร็วกว่า ไม่ใช่เรื่องเจ๋ง เก๋า แต่เป็นเรื่องผิดและอาจทำให้คนอื่นบาดเจ็บได้ บทลงโทษดังกล่าวถือว่าหนักพอสมควรกับการยึดรถจักรยานยนต์สำหรับใช้ทำมาหากิน ส่วนการกักขังนั้น ก็ดีกว่าการจำคุกมาก โดยเฉพาะถ้าถูกกักขังภายในบ้าน(อาจใช้กำไลอิเลคทรอนิค) แต่ก็ต้องสูญเสียรายได้จากการประกอบอาชีพไปตามระยะเวลาที่ศาลกำหนดครับ
อ่านต่อ โทษกักขัง คืออะไร ?
ถือว่าเป็นคดีตัวอย่างให้สังคมโดยเฉพาะบรรดาผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นอาชีพทั้งหลายได้ตระหนักว่ากฎจราจร คือกฎแห่งความปลอดภัย การละเมิดแล้วไปได้เร็วกว่า ไม่ใช่เรื่องเจ๋ง เก๋า แต่เป็นเรื่องผิดและอาจทำให้คนอื่นบาดเจ็บได้ บทลงโทษดังกล่าวถือว่าหนักพอสมควรกับการยึดรถจักรยานยนต์สำหรับใช้ทำมาหากิน ส่วนการกักขังนั้น ก็ดีกว่าการจำคุกมาก โดยเฉพาะถ้าถูกกักขังภายในบ้าน(อาจใช้กำไลอิเลคทรอนิค) แต่ก็ต้องสูญเสียรายได้จากการประกอบอาชีพไปตามระยะเวลาที่ศาลกำหนดครับ
อ่านต่อ โทษกักขัง คืออะไร ?
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น