ช่วงนี้มีการส่งรายชื่อผู้มีประวัติในการรักษาจิตเวชไปยังสถานีตำรวจทั่วประเทศ เพื่อให้ "จับตา" อย่างใกล้ชิด ไม่ให้บุคคลดังกล่าวไปก่อความวุ่นวายในพิธีสำคัญที่ใกล้จะถึง โดยจะต้องตรวจสอบยืนยันกันทุกวัน กำชับให้ญาติดูแลอย่างใกล้ชิด ห้ามออกนอกพื้นที่ หากไปก่อเหตุวุ่นวายในงานสำคัญ พิจารณาโทษเจ้าของพื้นที่ !
จากรายชื่อที่ได้รับมา ไม่น่าเชื่อว่าประเทศไทยจะมีผู้ป่วย หรือผู้ที่มีประวัติการรักษาด้านจิตเวช มากมายถึงเพียงนี้ ถ้าเขาเหล่านี้ทานยาตามปกติก็จะไม่มีอาการใด ๆ แต่หากหยุดยาเมื่อไหร่ จะเกิดอาการอาละวาด ไล่ทำร้ายผู้คน ทำลายข้าวของ ฯลฯ เดือดร้อนตำรวจต้องไปช่วยจับตัวส่งโรงพยาบาล คนพวกนี้เวลาเข้าจับก็ไม่ใช่ง่าย ๆ บางคนถืออาวุธ ทำร้ายตำรวจ ดิ้นรนจับกันวุ่นวาย เจ็บตัวทั้งคนจับและผู้ป่วย
และจากประสบการณ์ที่พบมา พวกที่ป่วยมาตั้งแต่เด็ก ๆ หรือเป็นมาแต่กำเนิดจะไม่ค่อยใช้ความรุนแรงเหมือนพวกที่มาป่วยตอนโต พวกนี้ส่วนมากจะมีประวัติเสพยาเสพติดมาก่อน จนเหมือนประสาทหลอน เสียสติ หวาดระแวง กลุ่มนี้สอบถามแล้วเสพยาบ้ามาก่อนแทบทุกคน ไม่น่าเชื่อว่ามันไม่ได้แค่ทำลายชีวิตช่วงที่เสพมันเท่านั้น คนที่เสพปริมาณมากและบ่อย จะสูญเสียสติ เป็นโรคประสาทเอาได้ง่าย ๆ ทำลายตนเองทั้งชีวิตไปเลย แถมยังเป็นภาระของคนรอบข้างอีก รู้อย่างนี้ยังจะเสพกันอยู่อีกมั๊ยครับ
วอนฝากถึงผู้ที่เป็นผู้ดูแลกลุ่มผู้ป่วย ช่วยประสานงานกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด อย่าให้ไปก่อความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น อาจจะเกิดการบาดเจ็บ สูญเสียชีวิต และทรัพย์สินได้ ยังไงให้อยู่ในบ้านปลอดภัยที่สุด และพาออกไปนอกบ้านเป็นครั้งคราว โดยมีผู้ดูแลไปด้วยทุกครั้ง หากิจกรรมให้ทำ และให้ทานยาตามกำหนดครับ
ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คงต้องเตรียมอุปกรณ์สำหรับการจับกุมผู้ป่วยจิตเวช อย่างเช่น ไม้ง่าม และให้มีการฝึกใช้งานสม่ำเสมอจนคล่อง เพื่อลดการบาดเจ็บของทั้งผู้ป่วย และเจ้าหน้าที่ กลายเป็นงานที่เลี่ยงไม่ได้ไปแล้ว ในการปฏิบัติอาจมีการประสานงานกับหน่วยกู้ภัย ทหาร สาธารณสุข หรือ อส. พื้นที่ ก็จะช่วยได้มากครับ