พอถึงช่วง 2 - 3 เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ ปัญหาในเรื่องค่าสาธารณูปโภคก็วนเวียนกลับมาให้ปวดหัวกันอีกเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็น ค่าไฟฟ้า น้ำประปา ค่าโทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต ที่ได้รับการจัดสรรมาอย่างไรก็ไม่เคยพอใช้สักที
ตำรวจเป็นหน่วยงานที่ต้องเปิดทำการ 24 ชั่วโมง ในช่วงเวลากลางคืนแม้จะเปิดทำการไม่เต็มทุกแผนก แต่ก็ต้องมีคนอยู่ที่โรงพักมากมาย อาทิ พนักงานวิทยุ , สิบเวร , ประจำวัน , พนักงานสอบสวน , เวรสืบสวน เป็นต้น ซึ่งก็ต้องมีการใช้ไฟฟ้ากันอยู่ตลอด ยิ่งเป็นงานที่ต้องบริการประชาชน ยิ่งต้องมีการเปิดเครื่องปรับอากาศ อย่างน้อยเพื่อลดความร้อนใจของผู้มาแจ้งความลงบ้าง
นอกจากนี้ก็ยังต้องเปิดไฟรอบ ๆ ให้สว่างเพียงพอที่จะให้ประชาชนเห็นเด่นชัดว่าเป็นสถานีตำรวจ ไฟส่องสว่างบรรดารถยนต์ของกลาง และไฟเลี้ยงกล้องวงจรปิดที่ติดกันอยู่ทั่วเมือง หลาย ๆ จุดโรงพักต้องรับผิดชอบค่าไฟเองนะครับ รวม ๆ กันแล้วก็ไม่ใช่น้อยเลย นี่ยังไม่รวมที่พักสายตรวจ ป้อมสายตรวจซึ่งต้องหาเงินมาจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟเอง อีกด้วย
การตัดลดงบประมาณค่าสาธารณูปโภค ก่อนหน้านี้เคยให้ตัดลง 10 % ทุกปี ๆ รัดเข็มขัดกันจนผิดจากข้อเท็จจริง ลดงบประมาณในทางตัวเลขลงได้ แต่ค่าการใช้ไฟฟ้าไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด จึงต้องเอาเงินงบประมาณส่วนอื่นที่ได้รับการจัดสรร แปลงมาเป็นค่าไฟฟ้าแทน แน่นอนว่าจะเหลืองบอะไรได้อีก นอกจากในส่วนของเบี้ยเลี้ยง
เบี้ยเลี้ยงมันก็เหมือนกับเงินค่าล่วงเวลาที่จ่ายให้พี่น้องตำรวจ เมื่อหักเบี้ยเลี้ยงไป ก็เท่ากับว่าให้เขาไปทำงานล่วงเวลาฟรี ๆ หน่วยงานไหนในโลกเขาทำกัน
เรื่องค่าสาธารณูปโภคหน่วยเหนือ กับหน่วยปฏิบัติช่างต่างกันอย่างสิ้นเชิง หน่วยปฏิบัติประหยัดแล้วประหยัดอีกก็ยังไม่พอ ต้องเอาเบี้ยเลี้ยงมาจ่าย ส่วนหน่วยเหนือสามารถผันงบ ตัดงบต่าง ๆ มาเติมได้ง่ายกว่ามาก โรงพักผมกว่าจะใช้แอร์ได้ก็ต้องช่วงบ่าย ช่วงเช้าก็ทนร้อนเอา ถ้าอยากพักเย็นสบาย ก็ลงไปห้อง One stop service แต่บรรดาสำนักงานต่าง ๆ นั่งกันแค่คนเดียว ก็เปิดแอร์ซะเย็นฉ่ำ ช่างแตกต่างกันเหลือเกิน น่าลองเอาสัดส่วนคน ต่อค่าสาธารณูปโภคมาวัดกันดูนะ จะได้รู้ว่าการใช้งบประมาณค่าไฟต่างกันขนาดไหน
ผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติควรจะต้องตระหนักและดำเนินการบางอย่างเพื่อแก้ไขปัญหานี้ เพราะเป็นปัญหาของหน่วยย่อยทั่วประเทศ ที่ผ่านมาหลายปี ก็พิสูจน์ชัดเจนแล้วว่า ไม่สามารถลดค่าไฟฟ้าลงไปได้มากกว่านี้แน่ ควรใช้สมองหาทางแก้อย่างอื่นทดแทน อาทิ
- ขอสนับสนุนเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าเป็นแบบ แอลอีดี ทั้งในอาคาร สปอตไลท์ ฯลฯ ส่วนหลอดเก่าให้เอาไปบริจาค หรือเป็นสำรองตามบ้านพักตำรวจก็ได้
- ทำโครงการ โซล่ารูฟ ลดค่าไฟฟ้าตอนกลางวัน
- ออกแบบเครื่องปั๊มน้ำตามสถานีตำรวจใหม่ ให้มันเล็กลง กินไฟน้อยลงอย่างมีประสิทธิภาพ(แบบเก่าแม่งใหญ่เทอะทะ กินไฟ จะใช้แบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่ กะออกแบบทีเดียวใช้ร้อยปีรึไง)
เรื่องแบบนี้อย่ามองเป็นแค่เรื่องเล็ก เพราะพี่น้องตำรวจเขาคาดหวังกับความสามารถของผู้บริหาร รับราชการมาจนถึงยศพลตำรวจเอก น่าจะมีความรู้ ความสามารถ ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ เป็น ผบ.ตร. มาหลายปี จะเหลืออะไรให้เป็นที่จดจำ ? เลือกเอา
ปล. ตอนนี้ที่จำแม่นเลย ก็เช่น การแต่งตั้งที่โคตรเละเทะ มีทั้งคนตาย คนเกษียณ คนเดียวหลายคำสั่ง ตั้งแล้วถอน ฯลฯ กับเครื่องบินเจ็ทพันล้าน นั่งได้ 8 คน เรื่องดี ๆ ทั้งน้าน
ตำรวจฝั่งทน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น