หลังจากเมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีการลงนามหนังสือสั่งให้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีคำสั่งให้ พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. มาประจำ ศปก.ตร. ซึ่งเป็นข่าวครึกโครมสะท้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปแล้วนั้น(คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง)
ถัดมาอีกเพียงวันเดียว คือวันที่ 24 มกราคม 2563 พลเอกประยุทธฯ นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามใน คำสั่งนายกรัฐมนตรี ที่ 1/2563 เรื่อง ให้ข้าราชการรักษาจรรยาและวินัยข้าราชการ โดยมีใจความดังนี้
ตามที่ได้มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 2/2562 ลงวันที่ 9 เมษายน พ.ศ.2562 สั่งให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ขาดจากการเป็นข้าราชการตำรวจ และให้โอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในกรอบอัตรากำลัง ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษในสำนักนายกรัฐมนตรี ตามมาตรการแก้ไขปัญหาเจ้าหน้ที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างถูกตรวจสอบซึ่งเป็นตำแหน่งที่ได้รับเฉพาะเงินเดือน โดยไม่ได้รับงินประจำตำแหน่งและสิทธิประโยชน์ประจำตำแหน่ง นั้น
เพื่อให้ พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาจรรยาและวินัยข้าราชการ และเพื่อให้การปฏิบัติงานของข้าราชการดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง อาศัยอำนาจตามข้อ 1 (ค) ของบัญชี ห้าท้ายคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 9/2562 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2562 มาตรา 87 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 และหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 1011/ว 12 ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2556 นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งจึงเห็นสมควรกำชับให้ พลตำรวจโท สรเชษฐ์ หักพาล รักษาจรรยาและวินัยข้าราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเหตุ ดังต่อไปนี้
1. ไม่กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ไม่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต ไม่รายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ไม่ปฏิบัติราชการอันเป็นการกระทำการข้ามผู้บังคับบัญชาเหนือตน ไม่อาศัยตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนหาประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น ไม่ประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ ไม่ละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการ ไม่กระทำการอันเป็นการกลั่นแกล้ง กดขี่ ข่มเหงกันในการปฏิบัติราชการ ไม่ดูหมิ่น เหยียดหยามประชาชน
2. ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบ ของทางราชการ ด้วยความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ อุทิศเวลาของตนให้แก่ราชการ รักษาความลับของทางราชการ มีความสุภาพ เรียบร้อย รักษาความสามัคคี ช่วยเหลือการปฏิบัติราชการระหว่างข้าราชการด้วยกันและผู้ร่วมปฏิบัติราชการ
ทั้งนี้ ให้ข้าราชการดังกล่าวปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ แต่ให้งดการมอบหมายงานพิเศษและสำคัญ และหากมีกรณีไม่รักษาจรรยาและวินัยข้าราชการให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยต่อไป
ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ลงวันที่ 24 ม.ค.2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
ตามที่ได้มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 2/2562 ลงวันที่ 9 เมษายน พ.ศ.2562 สั่งให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ขาดจากการเป็นข้าราชการตำรวจ และให้โอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในกรอบอัตรากำลัง ชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษในสำนักนายกรัฐมนตรี ตามมาตรการแก้ไขปัญหาเจ้าหน้ที่ของรัฐที่อยู่ระหว่างถูกตรวจสอบซึ่งเป็นตำแหน่งที่ได้รับเฉพาะเงินเดือน โดยไม่ได้รับงินประจำตำแหน่งและสิทธิประโยชน์ประจำตำแหน่ง นั้น
เพื่อให้ พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล รักษาจรรยาและวินัยข้าราชการ และเพื่อให้การปฏิบัติงานของข้าราชการดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง อาศัยอำนาจตามข้อ 1 (ค) ของบัญชี ห้าท้ายคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 9/2562 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ.2562 มาตรา 87 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 และหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร 1011/ว 12 ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2556 นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งจึงเห็นสมควรกำชับให้ พลตำรวจโท สรเชษฐ์ หักพาล รักษาจรรยาและวินัยข้าราชการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเหตุ ดังต่อไปนี้
1. ไม่กระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ไม่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยทุจริต ไม่รายงานเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ไม่ปฏิบัติราชการอันเป็นการกระทำการข้ามผู้บังคับบัญชาเหนือตน ไม่อาศัยตำแหน่งหน้าที่ราชการของตนหาประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น ไม่ประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ ไม่ละทิ้งหรือทอดทิ้งหน้าที่ราชการ ไม่กระทำการอันเป็นการกลั่นแกล้ง กดขี่ ข่มเหงกันในการปฏิบัติราชการ ไม่ดูหมิ่น เหยียดหยามประชาชน
2. ปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎระเบียบ ของทางราชการ ด้วยความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ อุทิศเวลาของตนให้แก่ราชการ รักษาความลับของทางราชการ มีความสุภาพ เรียบร้อย รักษาความสามัคคี ช่วยเหลือการปฏิบัติราชการระหว่างข้าราชการด้วยกันและผู้ร่วมปฏิบัติราชการ
ทั้งนี้ ให้ข้าราชการดังกล่าวปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ แต่ให้งดการมอบหมายงานพิเศษและสำคัญ และหากมีกรณีไม่รักษาจรรยาและวินัยข้าราชการให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยต่อไป
ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ลงวันที่ 24 ม.ค.2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
----------------
ถือว่าเป็นการตำหนิ และเตือนอย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่ข้าราชการคนหนึ่งจะโดนได้ หนึ่ง เพราะเป็นการลงนามหนังสือเตือนที่ออกโดยผู้บริหารสูงสุดของประเทศ คือ นายกรัฐมนตรี เป็นคำสั่งแรกของปี 2563 จำง่ายดีมั๊ยล่ะ , สอง เพราะปกติไม่เคยมีใครได้รับหนังสือลักษณะดังกล่าวมาก่อน ถ้าจะเตือนกันปกติก็จะเรียกมาคุย , สาม การปรากฎในสื่อที่ลงข่าวทั่วประเทศเหมือนไม่ใช่แค่เตือนธรรมดา แต่ต้องการตบหน้าให้ได้สำนึก ได้อาย พร้อมทั้งกระทบชิ่งไปยังผู้ที่ถือหาง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ อีกด้วย ว่าควรหยุดการกระทำชั่ว ๆ ได้แล้ว
ตรงนี้ตอกย้ำความเป็นเบอร์ 1 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีอำนาจเต็ม(เพิ่งมีในปีสุดท้าย ... เฮ้อ) และสามารถต่อสายตรงกับนายกฯ ได้ ได้รับความเชื่อถือ เชื่อมั่นจากนายกฯ เต็มที่ หลังจากตั้งรัฐบาล และนายกฯ เข้ามาคุมตำรวจเอง ไม่มอบใครให้เลอะเทอะ
ถึงตรงนี้ทั้งข่าวการย้าย 2 รอง ผบ.ตร. และ หนังสือเตือน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ เชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกัน แมลงหวี่ใน ตร. จับประเด็นได้จากกรณี ยิงรถที่ไม่มีคนของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ จากนั้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ ก็มีการให้สัมภาษณ์ในลักษณะให้ร้าย ผบ.ตร. โดยมี พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เข้ามาล้วงลูก ทำเกินหน้าที่ จนมีคลิปเสียงการสนทนาหลุดมาประมาณนี้
ตรงนี้ตอกย้ำความเป็นเบอร์ 1 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีอำนาจเต็ม(เพิ่งมีในปีสุดท้าย ... เฮ้อ) และสามารถต่อสายตรงกับนายกฯ ได้ ได้รับความเชื่อถือ เชื่อมั่นจากนายกฯ เต็มที่ หลังจากตั้งรัฐบาล และนายกฯ เข้ามาคุมตำรวจเอง ไม่มอบใครให้เลอะเทอะ
ถึงตรงนี้ทั้งข่าวการย้าย 2 รอง ผบ.ตร. และ หนังสือเตือน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ เชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกัน แมลงหวี่ใน ตร. จับประเด็นได้จากกรณี ยิงรถที่ไม่มีคนของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ จากนั้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ ก็มีการให้สัมภาษณ์ในลักษณะให้ร้าย ผบ.ตร. โดยมี พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เข้ามาล้วงลูก ทำเกินหน้าที่ จนมีคลิปเสียงการสนทนาหลุดมาประมาณนี้
พล.ต.อ. จักรทิพย์ : ผมดูออกเรื่องพวกนี้ ไม่ใช่ดูไม่ออก แล้วไปบอกกันที่ 98 คอนโดเพลินจิตนั่น รู้หมดนั่นแหละ แต่ไม่เคยพูด ที่โทร. มามีแค่นี้แหละ ทำอะไรก็ได้ที่ผู้บังคับบัญชาเขาไว้ใจ อย่าได้ระแวง เข้าใจเปล่า พี่ต้อยยังไม่รู้เรื่องเลย จะเอาอะไรก็แล้วแต่ พี่โทร. มาเตือนแค่นี้แหละ รอง ผบ. หลายคนเขารู้สึก ที่โทร. มาหาพี่เนี่ยนะ
พล.ต.อ. วิระชัย : ถ้าพี่จะให้ผมทำยังไง ก็บอกแล้วกันครับ ที่ผมลงไปก็เพราะว่าถ้าไม่มีใครทำอะไร เขาก็พูดว่าเราไม่ทำอะไร
พล.ต.อ. จักรทิพย์ : น.1 เขาทำอยู่แล้ว (น.1 รหัสของ พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.) นครบาลเขาทำอยู่แล้ว เขาทำตลอด เขาโทร. รายงานมาว่าวันนี้ทำนี่ ๆ นครบาลเขาก็ทำอยู่แล้ว ระเบิดศาล ระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ยังทำได้เลย อย่าไปคล้อยตาม อย่าไปเล่นตามรับลูกกันนะ ทรงอย่างนี้มันดูออกเข้าใจเปล่า
พล.ต.อ. วิระชัย : ครับ หมายความว่าผมไม่ต้องลงไปยุ่งเรื่องนี้ใช่ไหมครับพี่ครับ
พล.ต.อ. จักรทิพย์ : ที่ลงไปแล้วก็จบแล้วไง แค่สั่งการไปก็พอแล้ว ดูเขารายงานกลับขึ้นมาแค่นั้นเอง ไม่ต้องออกไปแถลงข่าวนู่นแถลงข่าวนี่ ไปโอ้โห... เหมือนกับเตี๊ยมกันมานั่นแหละ มันไม่มีอะไรเลย เขารายงานพี่มาเนี่ย พี่ยังไม่เคยโทร. บอกพี่ต้อยเลย นึกว่ามีวุฒิภาวะพอที่จะนู่นนี่นั่น ไม่ไปเอาเรื่องส่วนตัว 2 คนเข้ามาร่วมด้วย รู้... ทั้งพี่ต้อย พี่โจ๊กคิดอะไรอยู่ รู้... เหมือนที่เคยหลอกใช้พี่ศรีวราห์ หลอกใช้พี่รุ่งโรจน์ พี่ไผ่ พี่ช้าง รู้... ทำอะไรอยู่อะ พี่โตมาป่านนี้แล้ว อยู่มาขนาดนี้แล้ว ให้คนโทร. มาถาม พลเอก ทำนู่นทำนี่ มันไม่ใช่ อยู่คนละที่ นู่น อยู่สำนักงานนายกฯ นู่น พี่ไม่ได้อยากพูดถึงขนาดนี้หรอก แต่เขารายงานพี่มาเนี่ย มันมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
เห็นว่ากรณียิงรถที่ไม่มีคนอยู่ดังกล่าวนั้น มีความคืบหน้าในระดับที่อาจจะฟันธงได้ว่า "จัดฉาก" ส่วนจะเปิดเผยข้อเท็จจริงกันขนาดไหน คงอยู่ที่การต่อรองทางการเมืองภายในแล้วล่ะครับ เพราะถ้าเอากันจริง ๆ คงไม่ออกหนังสือเตือนแบบนี้แน่
วงการสีกากี พอถึงระดับหนึ่งก็ไม่มีพี่น้อง ไม่มีเพื่อนกันแล้ว ลาภ ยศ สรรเสริญ ผลักดันให้ทำอะไรก็ได้ ดีนะผมอยู่บ้านนอก ไม่ต้องยุ่งเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ วนอยู่กับตู้แดง เด็กแวนซ์ ก็ยุ่งพอแล้ว 55
ปล. ส่วนกรณี พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. ที่มาประจำ ศปก. ไม่รู้เกี่ยวกับจับเรื่องตู้ม้ารึเปล่า ไม่แน่ใจครับ ทั้งหมดนี่สรุปจากแมลงหวี่สายมโน จับข่าวมายำนะครับ อย่าคิดจริงจัง เดี๋ยวโดนฟ้อง 555
ตำรวจบ้านนอก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น