COVID-19 สั่งเยอะจนมึน !


พี่น้องตำรวจได้ผ่านวิบากกรรมในการทำงานช่วง COVID-19 มาเป็นระยะเวลานับเดือน  ร่วมกับหน่วยงานทางการแพทย์ และหน่วยงานอื่น ๆ อีกมากมาย   รวมทั้งพี่น้องประชาชนด้วยเช่นกัน   เราได้เห็นถึงความลำบากในการดำรงชีวิต  ต้องเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตไปอย่างมากมาย  วันนี้จะขอเล่าสู่กันฟังในเรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจกันบ้างนะครับ  เผื่อบางท่านจะไม่ทราบว่าตำรวจต้องทำอะไรบ้างในภาวะวิกฤติ COVID-19 เช่นนี้

     หลังจากที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19  เริ่มจากสนามมวย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ  ทางภาครัฐก็มีมาตรการตามหลังมาเป็นระยะ  จากตอนแรกบอกเป็นไข้หวัดธรรมดา ไม่ต้องกลัว จนในที่สุดต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน  และนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาร่วมบังคับใช้กฎหมาย  

     สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งตั้งด่านตรวจคัดกรอง COVID-19 ในทุกจังหวัด  อันนี้ก็แอ็คชั่นล้ำหน้าฝ่ายปกครองและสาธารณสุข  โดยให้ผู้บังคับการแต่ละจังหวัดไปคุยกับผู้ว่าเอาเอง  แปลกนะ ทำไมรัฐบาลไม่สั่งผู้ว่าฯ เองไปเลย หรือ ตร. คุยกับมหาดไทยทีเดียวก็จบ   ด่านนี้ก็ตั้งร่วม ตำรวจ ปกครอง สาธารณสุข  แรก ๆ ไม่มีอุปกรณ์อะไรเลย  หน้ากากอนามัยก็หามาเอง  เครื่องตรวจอุณหภูมิบางที่ก็ต้องซืิ้อเอง  เฟซชิลด์ก็ยังไม่มี  ตกกลางคืนเหลือตำรวจอยู่หน่วยเดียว ฯลฯ  สารพัดปัญหาครับ

     สั่งให้ออกจับกุมขายหน้ากาก เจล เกินราคา  แล้วเอาของกลางเอามาใช้ในราชการ(ผู้ต้องหายินยอม เผื่อได้ลดโทษ)  ไม่รู้ว่ามีระเบียบกฎหมายใดให้ทำได้  แล้วของกลางแน่ใจได้อย่างไรว่ามีมาตรฐานเพียงพอต่อการใช้งาน

     ข้อปฏิบัติ ข้อกฎหมาย ออกมาใหม่ทุกวัน  รวมทั้งข้อสั่งการของ ตร. ก็เช่นกัน  ประชุมกันทุกวันก็มีไอเดียใหม่ ๆ ออกมาทุกวัน  สั่งกันเป็นหน้ากระดาษ เข้มข้น  เล่นเอาผู้ปฏิบัติมึนตึ๊บ  เพราะทุกนโยบาย ทุกคำสั่ง  ผู้ปฏิบัติก็ รองสารวัตร ชั้นประทวน   อันนี้ไม่รู้ว่าคนสั่งจำที่ตัวเองสั่งได้รึเปล่า   ควรมีการสรุปการปฏิบัติเป็นข้อ ๆ  อย่าให้เกิน 1 - 2 หน้า อัพเดทให้กับผู้ปฏิบัติเป็นรายวัน

     ทุกสถานีตำรวจต้องมีมาตรการป้องกัน COVID-19  โดยลงทุนเอง  ตั้งแต่ทำอ่างล้างมือหน้าโรงพักเลย  ซื้อที่วัดอุณหภูมิ  เจลล้างมือ  เฟซชิลด์  หน้ากากอนามัย  ฉากกั้น  จัดที่นั่ง ฯลฯ   เงินทั้งนั้น  พอทำครบมีคำสั่งให้กันงบประมาณของสถานีตำรวจอีกหลายหมื่น มาใช้เฉพาะ COVID-19 คือต้องจัดซื้อพวกเจล หน้ากาก อะไรพวกนี้  ทั้ง ๆ ที่หามาเองจนพอใช้แล้ว  กลับต้องเสียงบประมาณอีกเพื่ออะไร

     การตั้งด่านเคอร์ฟิว และจัดชุดเคลื่อนที่เร็วอีกชุดหนึ่ง(จะเอากำลังพลที่ไหน)  เพื่อจับกุมผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว  ประชุมเน้นผลการจับกุม  กดดันกันจนกระทั่งคนไร้บ้านยังโดนจับ  ใช้กฎหมายจนลืมความเป็นคน  คนเก็บขยะ คนหาปลา หากบ คนที่ต้องดิ้นรนประทังชีวิตไปวัน ๆ  ต้องมีเมตตา    อย่าโทษผู้ปฏิบัติเพียงอย่างเดียว  ต้องโทษคนสั่งการด้วย   ที่ต้องเน้นคือพวกรวมกลุ่มกันโดยไม่มีเหตุอันควรไม่ใช่หรือ




     ตร. ร้องขอไปยังรัฐบาลให้แต่งตั้งเพิ่มเติม ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจยศร้อยตำรวจตรีขึ้นไป เป็นเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ  อันนี้หางานให้ลูกน้องแท้ ๆ ปล่อยให้สาธารณสุขกับปกครองเขาเป็นเจ้าภาพไปสิ  งานปกติก็เยอะอยู่แล้ว(ดูจากภารกิจข้างบนที่กล่าวไปแล้ว และข้างล่างที่จะกล่าวต่อไป)

     ไปติดตามดูพวกผู้ที่ต้องเฝ้าระวัง กลุ่มเสี่ยงว่าได้ปฏิบัติตามคำสั่งของสาธารณสุขหรือไม่   มีการกักตัวหรือไม่  ถ้าฝ่าฝืนให้ดำเนินคดี  โดยการจับกุมจะต้องมีชุดคลุมป้องกันตัวเองด้วย(แน่นอนว่าชุดต้องหามาเองนะจ๊ะ)

     ต้องมีผลการปฏิบัติฝากบ้านหมอไว้กับตำรวจ  แม้ทางบุคลากรทางการแพทย์จะไม่ได้ร้องขอ  เราก็ต้องไปถาม  ถ้าถามแล้วยังไม่ต้องการอีก  ก็ยังต้องไปตรวจแล้วถ่ายภาพส่งอีก  จะเยอะไปไหน เพราะบางจังหวัด บางโรงพัก เขาไม่มีสถานการณ์ใด  หมอ-พยาบาล เขาก็ไปทำงานกันปกติ 

     ใครจะแจกอาหาร แจะสิ่งของ ก็ต้องไปดูแล จัดระเบียบ  ถ้าคนทั่วไปยังรู้ แล้วตำรวจไม่ไปดูแล จะโดนลงโทษ  ....

     การจับคนร้ายช่วงนี้ก็ยิ่งต้องระมัดระวัง  ถ้าคนร้ายเกิดมีเชื้อโควิดขึ้นมา  ได้ติดกันยกชุดแน่  แถมจะเอากลับไปฝากครอบครัว เพื่อนร่วมงานอีกด้วย  ดังนั้นผลการปฏิบัติด้านการจับกุมจะต้องลดน้อยลงเป็นธรรมดา  ทางผู้บริหารต้องเข้าใจด้วยนะครับ  ทั้งหมายจับ ทั้งคดี 4 กลุ่ม น้อยลงแน่ ๆ

     นี่แค่ส่วนหนึ่งนะครับ  ยังมีคำสั่ง ข้อสั่งการที่เปลี่ยนแปลงไปมาในแต่ละวัน(ปรับแผน)  ก็เอามาเล่าสู่กันฟัง  และบันทึกไว้เป็นจดหมายเหตุครั้งหนึ่งประเทศไทยกับวิกฤติไวรัส COVID-19  และบทบาทการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ที่แม้จะไม่ค่อยมีคนกล่าวถึง พูดถึง  แต่เราก็เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขปัญหา  ลดการแพร่ระบาดเช่นกันครับ

ปล. ตอนนี้ตำรวจที่ป่วยโควิด เห็น รพ.ตร. รายงานว่าหายกลับบ้านได้ทั้งหมดแล้วนะครับ

ตำรวจบ้านนอก



ความคิดเห็น