หลังจากนายกฯ ประกาศยุบสภา และได้มี พรก.กำหนดวันเลือกตั้ง ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 แล้วนั้น เท่ากับว่าการเลือกตั้งดังกล่าวเป็นไปโดยชอบธรรมตามกระบวนการแล้ว แต่ในส่วนแกนนำ กปปส. อาทินายสุเทพ เทือกสุบรรณ(กบฏหมายเลข 14 แห่งราชอาณาจักรไทย) จะไม่ยอมให้มีการเลือกตั้ง และจะขัดขวางด้วยการกระทำต่าง ๆ เช่น การปราศรัย , ยุยง หรือส่งคนไปขัดขวางการสมัคร , การหาเสียง , การเลือกตั้ง ฯลฯ ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมที่ฟังอาจไม่ทราบว่าการกระทำดังกล่าว เข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษทั้งจำ และปรับ ตาม พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2550 ดังนี้
มาตรา ๔๓ ผู้ใดขัดขวางการปฏิบัติงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง กรรมการการเลือกตั้ง คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด กรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด คณะอนุกรรมการหรืออนุกรรมการ ในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการขัดขวางการปฏิบัติงานตามวรรคหนึ่ง ได้กระทำโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๔๔ ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรา ๒๖ (๒) หรือ (๓) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๔๕ กรรมการการเลือกตั้ง กรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด หรืออนุกรรมการ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๙ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดสิบปี
สำหรับ กกต. เองที่มีหลายฝ่ายกังวลว่าจะลาออกจนไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้นั้น ก็มีกฎหมายกำหนดบทลงโทษสำหรับกรณีดังกล่าวไว้เช่นกันครับ คือ
มาตรา ๒๖ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีอำนาจ ดังต่อไปนี้
(๑) ให้หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น มีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง หรือให้ความเห็นในการปฏิบัติงาน หรือส่งเอกสารหลักฐาน หรือพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณา
(๒) ให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานตาม (๑) เจ้าหน้าที่ของรัฐ พนักงานอัยการ พนักงานสอบสวน หรือบุคคลใด มีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง หรือมาให้ถ้อยคำ หรือส่งเอกสารหลักฐาน หรือพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดเพื่อประกอบการพิจารณา
(๓) ให้บุคคลใดมีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง หรือมาให้ถ้อยคำ หรือส่งเอกสารหลักฐาน หรือพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนดเพื่อประกอบการพิจารณา
(๔) ขอความร่วมมือให้ศาลส่งเอกสาร หลักฐาน หรือพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณา
(๕) เข้าไปหรือแต่งตั้งให้บุคคลเข้าไปในที่เลือกตั้ง ที่ออกเสียงประชามติหรือสถานที่นับคะแนนเลือกตั้งหรือนับคะแนนการออกเสียงประชามติ
มาตรา ๒๙ ห้ามมิให้กรรมการการเลือกตั้ง กรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัด และอนุกรรมการ กระทำการอันมิชอบด้วยหน้าที่เพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดในการเลือกตั้ง หรือกระทำการหรือละเว้นกระทำการโดยทุจริตหรือประพฤติมิชอบในการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้งหรือการออกเสียงประชามติ
ในกรณีที่บุคคลตามวรรคหนึ่งกระทำการตามหน้าที่โดยสุจริต ย่อมได้รับความคุ้มครองไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางปกครอง
บรรดาผู้ที่คิดจะล้มเลือกตั้ง ด้วยวิธีการประหลาด ๆ ก็รู้ไว้ซะด้วยนะครับว่ามันผิดกฎหมาย และมีโทษจำคุก ตามตัวบทกฎหมายข้างต้น ตอนทำอาจจะไม่โดนจับ แต่ไม่ต้องห่วงครับ พี่ตำรวจจะค่อย ๆ ตามจับทีละคน ๆ ในตอนที่คุณกำลังพักผ่อนอยู่บ้าน หรือ ตอนกำลังเดินเล่นกับลูก ๆ ถึงตอนนั้นก็อย่ามาโวยว่าแกนนำไม่ช่วยนะครับ ^^
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น