จากกรณีมีเอกสารการแต่งตั้ง อนุกรรมการ ก.ตร. เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบ ที่ลงนามโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกฯ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2562 ปรากฎว่ามีชื่อของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ได้โอนย้ายไปเป็นข้าราชการพลเรือนสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี อยู่ในคณะอนุกรรมการ ชุดดังกล่าว สร้างความสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ จะกลับมาเรืองอำนาจในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้งหรือไม่
ทันทีที่ข่าวแพร่สะพัดออกไปผู้สื่อข่าวรีบยื่นไมค์ถาม พล.อ.ประวิตรฯ เพราะ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ นั้นเป็นที่รู้กันว่าเป็นคนสนิทของพี่ใหญ่ประวิตรฯ และที่ได้ดิบได้ดีขึ้นพรวด ๆ ก็ในยุค คสช. กินเมืองนี่แหละ มาดูคำตอบของ พล.อ.ประวิตรฯ กันครับ
"เป็นเรื่องภายในของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยตนเอง มอบหมายให้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ชี้แจง พร้อมระบุว่า การเป็นคณะอนุกรรมการ สามารถให้บุคคลภายนอกเข้ามาเป็นอนุกรรมการได้ ถือเป็นอำนาจของคณะกรรมการ ซึ่งเป็นผู้แต่งตั้งขึ้นมา และตนเองเป็นเพียงผู้ลงนามเท่านั้น"
ตอบได้แมนมาก ... พฤติกรรมโยนขี้ให้ผู้ปฏิบัติ 555 ทั้ง ๆ ที่เอ็งนั่งหัวโต๊ะ เป็นคนลงนามให้ลูกน้องคนสนิทกลับมาเองแท้ ๆ นี่เรียกตัวเองว่าชายชาติทหารกันอยู่รึเปล่า
และภายในข้ามวันหลังจากที่เอกสาร "หลุด" ออกมา พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการ ก.ตร. เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ มีมติให้ถอนถอนชื่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่เป็นหนึ่งในอนุกรรมการชุดนี้ ออกจากอนุกรรมการ ก.ตร.แล้ว
เรื่องนี้มีประเด็นสงสัยหลายอย่าง อาทิ ตั้งเป็นอนุกรรมการ แล้วก็ถอนชื่อออก ภายในไม่กี่วัน ต้องตอบให้ได้ว่า ตอนแรกตั้งมาเพราะเหตุผลอะไร ใครเป็นคนเสนอ แล้วตอนหลังที่ถอนชื่อออก ด้วยเหตุผลอะไร เสียเวลาทำงานของกรรมการ เสียเวลาประเทศชาติ เปลืองงบจัดประชุม ฯลฯ ระบบราชการยังทำงานกันปัญญาอ่อนเช่นเคย
แต่ที่แน่ ๆ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ ก็คงมีศัตรูไม่น้อยในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะเอกสารนี้เผยแพร่ออกมาเพื่อโยนความกดดันไปที่คนลงนาม โยนข่าวนี้ให้สำนักข่าวเอาไปเล่น พยายามปิดเส้นทางการกลับมา ตร. ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ แม้จะเป็นเพียงแค่อนุกรรมการ ก.ตร. ก็ตาม
ธรรมดาของคนขึ้นเร็ว เหยียบหัวรุ่นพี่ มีส่วนในการโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม สร้างความวิบัติในแวดวงพี่น้องข้าราชการตำรวจที่ไม่ได้อยู่ในสังกัดตัวเอง คนแบบนี้ถ้าได้เป็นเบอร์ 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นึกไม่ออกจริง ๆ ว่าจะมีสภาพเป็นเช่นไร ลองดูพฤติกรรมการจัดคืนโฉนดทั่วประเทศเป็นตัวอย่างก็ได้ครับ ตำรวจทั่วประเทศเขารู้ดี
แต่ไม่ต้องห่วงครับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ ไม่เหงาแน่นอน เพราะเป็นกรรมการบริษัทรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ อย่างน้อย 3 แห่ง คือ
1.บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด รัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงคมนาคม
2.บริษัท รักษาความปลอดภัย กรุงไทยธุรกิจบริการ จำกัด มีธนาคารกรุงไทยถือหุ้น 100% เป็นหนึ่งในเครือธนาคารกรุงไทย รัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง
3.การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ปรากฏชื่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล เป็นกรรมการ ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2561
แต่ไม่ต้องห่วงครับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ ไม่เหงาแน่นอน เพราะเป็นกรรมการบริษัทรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ อย่างน้อย 3 แห่ง คือ
1.บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด รัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงคมนาคม
2.บริษัท รักษาความปลอดภัย กรุงไทยธุรกิจบริการ จำกัด มีธนาคารกรุงไทยถือหุ้น 100% เป็นหนึ่งในเครือธนาคารกรุงไทย รัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง
3.การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ปรากฏชื่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล เป็นกรรมการ ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2561
ที่มาสำนักข่าวอิสรา https://www.isranews.org/investigative/investigate-news-person/75469-isranews-75469.html นอกจากไม่เหงาแล้ว ยังมีค่าตอบแทนอีกเพียบ .... เป็นคนดีย์ นี่มัน ดีย์จริง ๆ
ตำรวจบ้านนอก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น