เดี๋ยวนี้มีการหลอกลวงหลายรูปแบบ แต่หลักการก็ยังคงเดิมนั่นแหละครับ เหมือนการ "ตกทอง" ที่ใช้ความโลภของเหยื่อให้เป็นประโยชน์ ถ้าทำตามขั้นตอนที่อาชญากรกำกับไว้ เหยื่อหวังว่าจะได้ผลตอบแทนที่มากมหาศาลกว่าที่ได้ลงทุน ลงแรงไป เราจะเห็นได้ในหน้าข่าวเป็นประจำ
วันนี้ก็จะขอเสนออีกรูปแบบหนึ่งของการหลอกลวง ในลักษณะเล่นใหญ่ ทำกันเป็นขบวนการ หวังจะสร้างโครงข่าย เครือข่ายระดับประเทศ และกระจายไปอยู่ในทุกตำบล หมู่บ้าน กันเลยทีเดียว นั่นคือ "คณะปฏิรูปยุทธศาสตร์ราชอาณาจักรไทยสยาม"
มีการกำหนดโครงการคร่าว ๆ คือ มีประธาน และคณะกรรมการ รวม 6-7 คน ในทุกระดับ ไล่ตั้งแต่ ระดับประเทศ ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ระดับตำบล ระดับหมู่บ้าน โดยมีการกำหนดค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนให้สูงมาก ระดับอำเภอเงินเดือนสูงกว่าผู้ว่าราชการ ระดับจังหวัดเงินเดือนสูงเทียบรัฐมนตรี ส่วนระดับประเทศนั้นเงินเดือนสูงหลายแสน ซึ่งเป็นเรื่องเพ้อเจ้อ เพ้อฝันอย่างมาก พอเข้าไปตรวจสอบ สอบถามก็ไม่มีใครทราบว่าจะนำเงินจากแหล่งใดมาดำเนินการปีนึง ๆ หลายร้อยล้านบาท งงมาก หวังแต่จะได้เงินกัน แต่ไม่สงสัยเลยว่าองค์กรเถื่อนนี้ จะเสกเงินจากไหนมาจ่ายให้
ตอนนี้มีการแทรกซึม กำหนดโครงการกันในระดับจังหวัดไปหลายแห่งแล้ว ส่วนมากที่เข้ามาก็คือข้าราชการเกษียณ(เป็นครู อาจารย์ในพื้นที่กันเสียส่วนใหญ่) กรรมการระดับจังหวัดก็อาศัยความน่าเชื่อถือส่วนตน ไปหากรรมการระดับอำเภอ ไล่กันลงไปเป็นทอด ๆ เหมือน ดาวน์ไลน์ ระบบขายตรง
วัตถุประสงค์ที่ก่อตั้ง "คณะปฏิรูปยุทธศาสตร์ราชอาณาจักรไทยสยาม" แน่นอนว่าต้องเขียนให้ดูยิ่งใหญ่ ดูดี แก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะปัญหาหนี้สิน ที่ดินทำกิน ฯลฯ เพื่อดึงดูด หลอกล่อ ให้คนเข้ามาร่วมขบวนการได้โดยง่าย ลักษณะเหมือนเป็นปากเป็นเสียงให้ผู้เดือดร้อน จะรับเรื่องแล้วยื่นให้รัฐบาลแก้ปัญหาให้ ประมาณนี้
ในขั้นต้นนี้ ยังไม่มีการเรียกเก็บเงินกับคณะกรรมการ และก็ยังไม่มีค่าตอบแทนใด ๆ ให้ แต่กรรมการจะต้องไปหาดาวน์ไลน์ของตัวเอง โดยลงทุน ลงแรงไปก่อน แต่ที่มันเกิดปัญหาจนสร้างความวุ่นวายคือมีการหลอกมวลชนให้เข้ามายื่นข้อเรียกร้อง ถวายฎีกา โดยอ้างว่าจะพามาชมวัดพระแก้วบ้าง ดูงานบ้าง แล้วก็หลอกมาถ่ายรูป ยื่นเรื่อง สร้างหลักฐานให้กับขบวนการต้มตุ๋น เพื่อเอาไปอวดอ้างเป็นผลงาน เอาไว้หลอกล่อให้คนเข้ามาร่วมกันมากยิ่งขึ้น ลักษณะการดำเนินการแบบนี้ก็เหมือนพวกตัวแทนเกษตรกรหลาย ๆ แห่งนั่นแหละ พอมีคนเข้าร่วมมาก ๆ เข้าก็เก็บเงินเพื่อจะมายื่นข้อเรียกร้องต่าง ๆ พาคนมาประท้วงหน้ากระทรวง สร้างมวลชนเพื่อหาประโยชน์ใส่แกนนำ อาจได้ต่อรองกับนักการเมือง รับประโยชน์ในรูปแบบที่พวกเกษตรไม่รู้เรื่องด้วย แต่ตกเป็นเครื่องมือไปแล้ว
ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้นิ่งนอนใจ สั่งการให้ทุกพื้นที่เข้าไปตรวจสอบ ทำประวัติ ข้อมูลบุคคลที่เกี่ยวข้อง ชี้แจงทำความเข้าใจประชาชนไม่ให้ถูกล่อลวง หรือตกเป็นเครื่องมือมิจฉาชีพในทุกรูปแบบ ตอนนี้เมื่อทราบข้อเท็จจริง บรรดากรรมการระดับจังหวัด อำเภอ หลายแห่งประกาศยุติบทบาทไปแล้ว
แต่ที่ตำรวจพื้นที่ไม่เข้าใจก็คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีสันติบาล มีกองปราบปราม อยู่ในมือแท้ ๆ และรู้อยู่แล้วว่าบุคคลผู้ก่อตั้ง "คณะปฏิรูปยุทธศาสตร์ราชอาณาจักรไทยสยาม" เป็นใคร มีประวัติอาชญากรรมอย่างไร ทำไมถึงไม่ลงมือจัดการส่วนหัวไปเลย ปล่อยให้ตำรวจทั่วประเทศต้องเดือดร้อน เพราะถ้าตัดต้นตอแห่งปัญหาได้แล้ว ก็จะไม่มีการติดต่อ หรือชักชวนในระดับอื่นเพิ่มเติมแต่อย่างใด ในเมื่อชี้แจงกับทุกจังหวัดว่าการกระทำของกลุ่มนี้มีความผิดกฎหมาย แล้วทำไมไม่ทำเสียเองเลย เสียเวลาประชุมเพื่ออะไร ? ทั้งที่ทรัพยากร กำลังพล ข้อมูลทุกอย่างมีพร้อมที่สุดแล้ว ทำงานให้ลูกน้องมันดูหน่อย ว่าระดับประเทศเขาทำกันอย่างไร .....
มีของต้องปล่อยของแล้วจังหวะนี้ .. รึว่าไม่มี ?
.... ตำรวจฝั่งทน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น