จากเหตุการณ์การชุมนุมประท้วงรัฐบาลของหลาย ๆ กลุ่มการเมืองในห้วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็น กลุ่มที่เรียกได้ว่าเป็น คนรุ่นใหม่ คนหนุ่มสาว เป็นแกนหลัก ไม่มีคนในฟากฝั่งการเมืองขั้วตรงข้ามรัฐบาลประยุทธ อย่าง กลุ่มคนเสื้อแดง หรือ ส.ส.ฝ่ายค้าน มาร่วมแต่อย่างใด มีจุดเริ่มในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ และลามไปสู่มหาลัยหัวเมืองทั่วประเทศ จนมาสู่การลงพื้นที่ที่เป็นสัญลักษณ์อย่างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
แล้วตอนนี้เริ่มไปสู่ระดับมัธยมศึกษากันแล้ว ถ้าจะบอกว่าเด็ก ๆ พวกนี้ถูกหลอก ถูกล้างสมองได้ง่าย ๆ งั้นลองคิดดูนะครับ ว่า ตั้งแต่รัฐประหารปี 57 เผด็จการทหารได้ทำอะไรกับเด็กพวกนี้บ้าง เริ่มจากปิดทีวีทุกช่อง เข้าควบคุม กำหนดเนื้อหารายการ รวมทั้งผลิตรายการโฆษณาชวนเชื่อ แต่งเพลงเป็นสิบเพลง คนที่ต่อต้านต้องหนีออกต่างประเทศ ฯลฯ ถ้าเด็กสมัยนี้มันหลอกง่าย พวกเขาคงรัก พลเอกประยุทธ และรัฐบาลอย่างหัวปักหัวปำ คงไม่ออกมาไล่กันอย่างนี้แน่ ตกลงคนรุ่นไหนกันแน่ ที่หลอกง่าย ถูกล้างสมองได้ง่าย ๆ
พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ เป็นกฎหมายที่ออกมาในยุค คสช. เพื่อจัดการกับผู้ชุมนุมโดยเฉพาะ มีข้อกำหนดมากมายที่ทำให้การชุมนุมต่าง ๆ ไม่ง่ายเหมือนก่อน และมีโอกาสที่จะผิดกฎหมายนี้สูงมาก แต่เป็นที่ถูกใจผู้มีอำนาจมาก เพราะเผด็จการไม่ต้องการให้มีการตั้งคำถาม การตรวจสอบ หรือแสดงความ "เห็นต่าง"
ทุกครั้งที่มีการชุมนุมประท้วง ตำรวจเป็นหน่วยงานแรกที่เข้าไปรักษาความสงบเรียบร้อย และก็ถูกม็อบทุกสีด่ากราดมาตลอด หาว่าเข้าข้างรัฐบาล รับใช้คนนั้น คนนี้ ในฐานะที่เคยเป็นกองรอยควบคุมฝูงชน บอกเลยว่าลำบากใจนะครับ แต่ระบบตำรวจก็ต้องทำตามคำสั่ง
ในปัจจุบันมีการพัฒนาการจัดการ โดยนำเอากฎหมายมาจัดการผู้ชุมนุม แกนนำ กันภายหลังจากการชุมนุม เก็บหลักฐานต่าง ๆ เอาไว้ แล้วสรุปเป็นข้อหาในแบบทุกเรื่องที่หาได้ จนบางครั้งก็ถูกมองว่าทำเกินพอดี หรือเป็นการเอาใจผู้มีอำนาจ
ในมุมมองของผู้ประท้วงและผู้สนับสนุน มันก็ดูเป็นการกลั่นแกล้งกัน ยิ่งไปแอบจับวันศุกร์ ออกหมายจับโดยไม่มีหมายเรียก ยื้อการประกันตัว สารพัดแท็คติกที่คิดว่าจะสร้างความยุ่งยาก ท้อแท้ ให้กับผู้ถูกดำเนินคดี จนเข็ดไม่กล้ามาชุมนุมกันอีก
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่คิดจะถอดบทเรียนกันบ้างเลยหรือ ว่าการกระทำแบบ "เลีย" ผู้มีอำนาจลักษณะนี้ มันเป็นการโหมกระแสความไม่พอใจให้กับฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล เป็นการเติมมวลชนให้ออกมาประท้วงกันมากขึ้น ๆ เป็นอย่างนี้มากี่ม็อบแล้ว ตั้งแต่ พันธมิตร(เสื้อเหลือง) , นปช.(เสื้อแดง) , ม็อบเสื้อหลากสี , ม็อบ กปปส.(สลิ่ม) ฯลฯ
ตอนนี้ถึงกับสั่งให้ไปตามเก็บข้อมูลในโรงเรียนมัธยม ใครเป็นแกนนำ เกี่ยวข้องกับกลุ่มการเมืองหรือไม่ อย่างไร เป็นลูกใคร บ้านอยู่ไหน เช็คความเคลื่อนไหวใน เฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม นู่นนี่นั่น เฮ้ย ! นี่มันเด็กมัธยมนะเว้ย ส่วนใหญ่ไม่ถึง 18 ปีด้วยซ้ำ เรื่องสิทธิเด็กอะไรนี่ไม่เคยรู้จักกันเลยใช่มั๊ย รู้มั๊ยว่าถ้าเด็กถูกกระทำอะไรขึ้นมา จะมีแนวร่วมที่เป็นพ่อ แม่ ผู้ปกครองออกมาอีกเท่าไหร่
การกระทำที่ทำให้รู้สึกถึงความ "อยุติธรรม" แก่ฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง สุดท้ายจะมีผลเสียกับรัฐบาลเองมากกว่า แทนที่จะให้เขาชุมนุมและยื่นข้อเรียกร้องไป ฝ่ายการเมืองก็รับลูกเอาไปดำเนินการต่อ รึม็อบเด็กพวกนี้มันเป็น ม็อบไม่มีเส้น คิดว่าจะทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้นหรือ อีกไม่กี่ปีข้างหน้า เด็ก ๆ พวกนี้แหละที่จะมาขับเคลื่อนประเทศ เป็นกำลังสำคัญของชาติ เราจะทำกับลูกหลาน อนาคตของชาติแบบนั้นหรือ ท่าน ผบ.ตร. ตัวท่านเองรับเงินเดือนตั้งกี่ทาง ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ไปทำงาน คิดว่าความยุติธรรม ตรรกะ เหตุผลของประเทศนี้ มันยังปกติดีหรือวะครับ
ปล. ตอนนี้ตำรวจชั้นผู้น้อยก็ลำบากอีกแล้วครับ ต้องฝึกเตรียมตัวรับม็อบ พร้อมเดินทางเข้ากรุงตลอดเวลา คาดว่าน่าจะได้เจอกับน้อง ๆ เร็ว ๆ นี้
ตำรวจบ้านนอก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น